โรคไต ฮั้วลักเซียมช่วยได้อย่างไร

โรคไต ฮั้วลักเซียมช่วยได้อย่างไร

 

รู้จักโรคไตเรื้อรัง ทางแพทย์แผนปัจจุบัน


   
     โรคไตเรื้อรัง จะแสดงอาการออกมาในลักษณะที่เรียกกันว่า ไตเสื่อมหรือไตวาย ซึ่งหมายถึงภาวะที่มีการทำงานของไตลดลง จนเกิดการคั่งของเสียประเภทยูเรีย และของเสียอื่นๆ โดยปกติเราจะรู้ว่าไตเสื่อมมากหรือน้อยได้ด้วยการเจาะเลือด และวัดค่าของเสียบียูเอ็น (blood urea nitrogen หรือ BUN)และค่าครีอะตินีน (creatinine หรือ Cr) ถ้าค่า BUN และ Cr สูงกว่าค่าปกติมาก แสดงว่าไตมีความเสื่อมมาก 

 

     
ชนิดของภาวะไตวาย

  1. ไตวายเฉียบพลัน คือ ภาวะที่ไตสามารถฟื้นกลับมาทำงานได้อีกหากฟื้นฟู บำรงรักษาไตจนหายเป็นปกติ
  2. ไตวายเรื้อรัง คือ ภาวะที่ไตไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้

 

สาเหตุของโรคไต

  1.    เกิดจากโรคอื่นๆ เช่น ไตอักเสบหรือนิ่วในไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  2.    อาหาร: การทานอาหารเค็มจัด หรือ การทานอาหารที่มีโปรตีนมากเกินไปเป็นระยะเวลานานทำให้ไตทำงานหนักทำให้เกิดปัญหาไตเสื่อมหรือไตวายได้
  3.    ยา : การรับประทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
  4.    สิ่งแวดล้อม: เกิดจากการได้รับสารพิษติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

    

อาการของโรคไต

ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต จะมีอาการ ซีด บวม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดหลังหรือปวดบั้นเอว เบื่ออาหาร ผิวแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน สะอึก ซึม ความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยบางราย มีอาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยลง หรือปัสสาวะบ่อยได้ ในบางรายที่มีอาการหนัก อาจทำให้มีอาการหัวใจวาย หรือเจ็บหน้าอกจากเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ถ้าไม่รักษาอาจชัก ซึมลง หมดสติและเสียชีวิตได้ 

 

        ทำไมบางอาการที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ แล้วรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันไม่หายหรือหายเพียงชั่วคราวพอหยุดยาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก หรือ เป็นโรคแปลกๆ ที่หาสาเหตุไม่ได้ และรักษาไม่หาย จนคุณหมดกำลังใจ และคิดว่าชาตินี้คงต้องเป็นแบบนี้ตลอด หากคุณเป็นเช่นนี้อย่างเพิ่งท้อใจหรือสิ้นหวัง เพราะสิ่งที่คุณรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันอาจเป็นการรักษาไม่ตรงจุด หรือไม่ได้รักษาที่สาเหตุของปัญหา เพราะบางอาการที่แสดงออกบางอย่างไม่ได้เกิดจากระบบนั้นๆ เช่น หาก ไปพบแพทย์แผนปัจจุบันด้วยอาการ ผมหงอก เวียนศีรษะ ความจำเสื่อม ปวดเมื่อยเอวและเข่า เสื่อมสมรรถภาพ อ่อนเพลียเรื้อรังและปัสสาวะบ่อย แพทย์อาจตรวจวิเคราะห์คุณแล้วจ่ายยารักษาตามอาการมาสัก 5-6 ตัว หรือมากกว่านั้น หลังจากได้รับยากลับบ้านคุณก็ทานยาอย่างเคร่งครัดตามแพทย์สั่งจ่าย แต่ทำไมกินยาหมดแล้วอาการดังกล่าวก็ยังไม่หายสักที ทำไม??? สาเหตุก็คือ คุณรักษาไม่ตรงจุด คุณไม่ได้รักษาที่สาเหตุ

อาการที่คุณเป็นอยู่ คือ ภาวะไตอ่อนแอ ระบบไตในศาสตร์แพทย์แผนจีนจะมีความหมายที่กว้างกว่าทางการแพทย์แผนปัจจุบันมาก ระบบไตในทางแพทย์จีน หมายถึง ระบบที่ทำหน้าที่สร้างและควบคุมปัสสาวะ ระบบฮอร์โมน ระบบการสืบพันธ์ และปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต และความเสื่อมต่างๆ ดังนั้นหากบำรุงไตให้แข็งแรงก็จะสามารถป้องกันการเกิดโรคจากความเสื่อมต่างๆ ได้

 

ไตมีหน้าที่อะไรบ้าง

        ทำไมการบำรุงไตจึงช่วยป้องกันหรือรักษาโรคต่างๆ ได้ มาดูหน้าที่ของไตกัน

  1. ไตช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
  2. ไตช่วยควบคุมความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย เช่น หากปริมาณโซเดียมสูง จะทำให้มีน้ำในร่างกายมากและส่งผลให้ความดันโลหิตสูงตามมา
  3. ไตช่วยควบคุมสมดุลของกรดด่าง (pH) ในร่างกาย
  4. ไตช่วยควบคุมความดันโลหิต
  5. ไตช่วยสร้างและควบคุมฮอร์โมน

-      Erythropoietin : ช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง

-      Renin และ Prostaglandin : ช่วยควบคุมความดันเลือดให้ปกติ

  1. ไตควบคุมการสร้างวิตามินดี แคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยให้กระดูกแข็งแรง

นอกจากนั้นแล้วด้านบนของไตทั้ง 2 ข้างยังมีต่อมเล็กๆ ลักษณะรูปร่างคล้ายหมวก หรือที่เรียกว่า ต่อมหมวกไต อีกด้วยโดย

ต่อมหมวกไต(adrenal gland) ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญๆหลายชนิด เช่น

-      อะดรีนาลิน (adrenaline): มีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของโลหิตและการหดตัวของหลอดเลือด

-      กลูโคคอร์ติคอยด์ (glucocorticoid) : เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมเมตาบอลิซึมของน้ำตาล ไขมัน ต่อต้านการอักเสบ

-      อัลโดสเตอโรน (aldosterone): เพิ่มการดูดกลับของเกลือในไต

-      เทสโทสเตอโรน (testosterone) : เพิ่มลักษณะของร่างกายที่เป็นเพศชายและการเติบโต

-      อีพิเนฟฟริน (Epinephrine) และนอร์อีพิเนฟฟริน (norepinephrine) มีหน้าที่เพิ่มระดับน้ำตาลและกรดไขมันในเลือด เพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม เพิ่มการเต้นของหัวใจ เพิ่มการบีบตัวของเส้นเลือด

จากทั้งหมดจะเห็นได้ว่าระบบไตมีความสำคัญมาก ถ้าเกิดความผิดปกติกับระบบไตแล้วจะทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายและเกิดโรคอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนั้นก็คงไม่ผิดที่จะกล่าวว่า “ไตเป็นพื้นฐานของชีวิต” ดังนั้นการบำรุงไตให้แข็งแรงจึงสำคัญมาก เป็นการป้องกันและบำบัดรักษาอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้หลายๆ อย่างพร้อมๆกัน ซึ่งแตกต่างจากแพทย์แผนปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

        ภาวะไตอ่อนแอหรือไตเสื่อม ในทางการแพทย์จีนหมายถึงสภาพไตเสื่อมลง ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ทำให้ความสามารถในการขับน้ำและของเสียของไตลดลง ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของเกลือแร่และความเป็นกรดด่างของร่างกาย รวมทั้งเกิดภาวะขาดฮอร์โมนชนิดสำคัญที่สร้างจากไตและต่อมหมวกไตด้วย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดอาการผิดปกติของอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย หากไม่มีการบำบัดรักษาก็จะแก่ก่อนวัยและพัฒนากลายเป็นโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคเกาต์ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น หรืออาจพัฒนากลายเป็นไตอักเสบ หรือไตวายได้ในที่สุด

        ภาวะไตอ่อนแอหรือไตเสื่อม ในทางแพทย์แผนจีนนั้นไม่สามารถวัดได้จากค่า BUN หรือ Creatinine จึงเป็นสาเหตุให้ทำให้เมื่อไปหาแพทย์แผนปัจจุบันหรือตรวจร่างกายแล้วไม่พบความผิดปกติ แต่ในความเป็นจริงนั้นไตของคุณได้เสื่อมลงไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ และความเสื่อมนั้นได้ทำให้เกิดโรคต่างๆ แก่ร่างกายคุณตามมาอีกมากมาย ซึ่งความผิดปกติของไตที่เกิดขึ้นนั้นกว่าจะตรวจวัดได้จากค่า Bun หรือ Creatinin ก็ทำให้ไตคุณเสื่อมหรืออ่อนแอไปมากเกินกว่าจะเยียวยาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม และหากคุณรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันคุณจะยิ่งได้รับยารักษาตามอาการอีกมากมายนับสิบชนิด ซึ่งเป็นการยิ่งซ้ำเติมให้ไตทำงานแย่ลงไปอีกจากการสะสมพิษจากยาเคมีที่ตับ และไต และผลข้างเคียงจากยาแต่ละชนิดอีก จึงเป็นวงจรของการเกิดโรคอีกไม่รู้จบ

      

        อาการแสดงของภาวะไตอ่อนแอ     

 1. ระบบทางเดินปัสสาวะ

           - ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืนต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ

           - ปัสสาวะไม่สุด กะปริดกะปรอย

           - อั้นปัสสาวะไม่อยู่

           - น้ำปัสสาวะขุ่นหรือมีฟอง

           - อาการบวมน้ำ (ใช้นิ้วกดบริเวณหน้าแข้งแล้วมีรอยบุ๋ม)

        2. ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก

           - ปวดหลังปวดเอว แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง

           - ชาปลายมือปลายเท้า

           - เป็นตะคริวบ่อย

           - ปวดข้อเป็นประจำ

           - เป็นโรคเกาต์

           - ภาวะกระดูกพรุน

           3. ระบบประสาทและอารมณ์

           - เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียง่าย

           - วิงเวียนศีรษะเป็นประจำ

           - นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ตื่นตอนกลางคืนเป็นประจำ

           - แขนขากระตุกในขณะนอนหลับหรือสะดุ้งตื่นเป็นประจำ

           - ฝันทั้งคืน ตื่นเช้าขึ้นมาไม่สดชื่น ไม่อยากลุกจากที่นอน

           4. ระบบผิวหนังและความแก่

           - ผิวหน้าหมองคล้ำ หยาบกร้าน ไม่มีเลือดฝาด มีฝ้าบนใบหน้า

           - ใต้ตาหมองคล้ำหรือบวม

           - หน้าอกหย่อนยาน

           - ผมหงอกก่อนวัย

           - ผมร่วงเกิน 50 เส้นต่อวันหรือร่วงเป็นจำนวนมากตอนสระผม

           - น้ำหนักขึ้นหรือลงอย่างฮวบฮาบ

          5. อาการทางหู-ตา

           - หูอื้อหรือไม่ค่อยได้ยิน ต้องให้คนอื่นพูดซ้ำเป็นประจำ

           - ตาลาย ตาพร่า

           - โรคเมเนียส์ (น้ำในหูไม่เท่ากัน)

        6. ระบบทางเดินอาหาร

- เบื่ออาหาร

        - ลำไส้แปรปรวน

  1. ระบบภูมิต้านทาน

- ภูมิต้านทานต่ำ ป่วยง่าย

       8. หย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือความต้องการทางเพศลดลง

       - ฝันเปียกมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือหลั่งเร็วเป็นประจำ

       - ประจำเดือนมาผิดปกติ

       - มีบุตรยากหรือแท้งบุตร

       - เข้าสู่วัยทองก่อนวัยอันควร

 

      หากคุณมีมากกว่า 2 อาการแสดงว่าไตของคุณเสื่อมลงแล้ว ยิ่งมีอาการมากเท่าไรไตก็ยิ่งเสื่อมโทรมลงมากเท่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของสุขภาพที่คุณควรจะหันมาใส่ใจอย่างจริงจัง

        หยุดวงจรของการเกิดสารพัดโรคด้วยการบำรุงไตให้แข็งแรง ตั่งแต่วันนี้ก่อนจะสายเกินไป

       

การบำรุง ดูแล ฟื้นฟูไต

โรคไตนับว่าเป็นโรคเรื้อรังอีกหนึ่งโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะหากเป็นแล้ว การรักษาต้องใช้เวลานานและเสียค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องทำการฟอกไตด้วยแล้วยิ่งทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการท้อแท้ได้ เพราะต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยและค่าใช้จ่ายที่สูง

การบำรุง ดูแล ฟื้นฟูไต อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ง่ายและสะดวก คือการใช้ยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการ บำรุง ฟื้นฟู ไต ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ

 

 โรคไต ฮั้วลักเซียมช่วยได้อย่างไร

สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณช่วยบำรุง ฟื้นฟู ไต ที่มีอยู่ในยาน้ำสมุนไพรฮั้วลักเซียม

  1.    ตังถั่งเช่า หรือ หญ้าหนอน
  2.    คักฮก
  3.    เจี่ยเต็กย้ง
  4.    ซัวเอี้ยะ
  5.    เสกตี่
  6.    งู่ฉิก
  7.    ห่วยซัว
  8.    โต่วต๋ง
  9.    ม้าน้ำ
  10.         กิมเอ็งจี้
  11.         โหงวนี่จี้
  12.         โกวซีจี้
  13.         พ่อสิ่วโคว
  14.         ปาเก็กเที่ยง
  15.         ไช้ง้อกง

 

นอกจากนั้น ในยาน้ำสมุนไพรฮั้วลักเซียมยังมีส่วนประกอบของ ฮกพุ่งจี้ ที่ช่วยรักษาอาการปัสสาวะ กระปริดกระปรอย ได้อีกด้วย จะเห็นได้ยาในยาน้ำสมุนไพรฮั้วลักเซียมมีส่วนประกอบของสมุนไพรจีนที่ช่วย บำรุง ฟื้นฟู ไต ถึง 15 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะเข้าไปช่วยบำรุง ฟื้นฟู ไต ให้ค่อยๆ ฟื้นสภาพกลับมาทำงานเป็นปกติ โดยผู้ป่วยโรคไต ควรดื่มต่อเนื่องไป จะสามารถรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่จะไปล้างยาด้วยเพื่อให้ยาน้ำสมุนไพรฮั้วลักเซียมสามารถเข้าไป ฟื้นฟู บำรุง ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Visitors: 185,367