อาหารก่อมะเร็ง

 

ปัจจุบันโรคมะเร็ง จะกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของ คนไทยเป็นอันดับ หนึ่ง แซงหน้าอุบัติเหตุ และโรคหัวที่เป็นแชมป์เก่า ซึ่งแต่ละปีมีผู้ป่วยถึงปีละ 90,000 ราย และเสียชีวิตถึงปีละเกือบ 40,000 ราย และที่น่าตกใจคือ จากการสำรวจล่าสุดพบว่าอายุของผู้ป่วยโรคมะเร็ง มีอายุเฉลี่ยลดน้อยลง จากเดิมผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันมีอายุเฉลี่ย 30-40 ปีเท่านั้น

        แม้ว่ามะเร็งจะเกิดจากหลายสาเหตุแต่ สาเหตุที่สำคัญของมะเร็งในปัจจุบันนี้ คือ อาหารที่เราบริโภคเข้าไปทุกวันนี้ล้วนมีสารก่อมะเร็งเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น

อาหารก่อมะเร็งดังกล่าวได้แก่

  1.    อาหารทอด ปิ้ง ย่าง ทุกชนิด

ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง หมูปิ้ง ไก่ทอด ตามตลาดซึ่งเป็นอาหารไทยๆ หรือจะเป็นอาหารในร้านฟาสฟูดส์ชื่อดัง ได้แก่ เฟรนฟรายด์ ไก่ทอด ที่ปัจจุบันคนไทยก็นิยมไม่แพ้กัน ก็ล้วนแต่มีสารก่อมะเร็งเป็นส่วนประกอบด้วยทั้งสิ้น มีการพิสูจน์แล้วพบว่า ผู้บริโภคอาหารประเภทนี้เป็นประจำ จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ที่บริเวณลำไส้ใหญ่ เต้านม ตับ และต่อมลูกหมาก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งตามอวัยวะดังกล่าวนี้สูงมาก โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากการบริโภคอาหารชนิดดังกล่าว โดยเฉพาะอาหารทอดทั้งหลายนั้นผู้ขายมักจะประหยัดโดยใช้น้ำมันทอดซ้ำ โดยสารก่อมะเร็งดังกล่าวได้แก่ Cyclic fatty acids, Aldehydic triglycerides, Triglyceride hydroperoxides, Aldehydes และ Polycyclic Aromatic Hydrocarbon (PAH)

 

  1.    อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเลสด

เนื้อสัตว์จะมักจะมีสารเร่งเนื้อแดงพวกเบต้าอะโกนิสต์ (Beta-Agonist หรือ b-Agonist) โดยที่สารในกลุ่มนี้เป็นตัวยาสำคัญในยาบรรเทาโรคหอบ หืด ช่วยในการขยายหลอดลม มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว และช่วยให้กล้ามเนื้อขยายตัว เพิ่มการสลายตัวไขมันที่สะสมในร่างกาย ต่มีการนำสารในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะ เคลนบิวเตอรอล (clenbuteral) และ ซัลบูตามอล (salbutamol) มาใส่ในอาหารสำหรับเลี้ยงหมู ซึ่งสารนี้จะตกค้างในเนื้อหมู และสะสมมาทำอันตรายต่อผู้บริโภคสำหรับผู้บริโภค อันตรายจากการบริโภคเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างอยู่ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด หลอดลม กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น

 

อาจมีอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระวนกระวาย วิงเวียนศีรษะ บางรายมีอาการเป็นลม นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางจิตประสาท และเป็นอันตรายมากสำหรับหญิงมีครรภ์และผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์

นอกจากนี้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งตรวจพบตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์ ประเภท คลอแรมแฟนิคอล (Chloramphenicon) และยากลุ่มไนโตรฟูแลม (Nitrofurans) ล้วนเป็นสาเหตุทำให้โรคมะเร็งทั้งสิ้น

 สถาบันโภชนาการ ระบุว่าไตของคนกินเนื้อต้องทำงานมากกว่าคนกินผักถึง 3 เท่า เพื่อขับสิ่งสกปรก และสารพิษในเนื้อที่กินเข้าไป แม้ว่าขณะอยู่ในวัยหนุ่มสาวจะไม่แสดงอาการผิดปกติ แต่พออายุมากขึ้น จะเห็นผลชัด ก่อให้เกิดโรคร้าย โดยเฉพาะความเสี่ยงในเรื่องของมะเร็ง มีอัตราเสี่ยงสูงมาก หากนิยมกินเนื้อสัตว์เป็นประจำทุกวัน

อาหารทะเลสด เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา มีการตรวจพบว่า ที่ขายอยู่ตามท้องตลาด มักจะใช้ฟอร์มาลิน(Formalin) หรือ น้ำยาอาบศพ เป็นน้ำยาแช่ เพื่อช่วยให้คงความสด ไม่เน่าเสียง่าย ซึ่งถือเป็นสารต้องห้าม ที่ผู้บริโภคอาจไม่รู้เลยว่า แฝงมากับอาหารทะเลเหล่านี้ในปริมาณที่สูงมาก

     ดังนั้นอาหารทะเลสดที่ปรุงแบบสุกๆดิบ ประเภท ปลาจ่อม ปลาร้า ก้อยปลา กุ้งแช่น้ำปลา จึงเป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัย และจากการวิจัยพบว่า หากบริโภคเป็นประจำ นอกจากพิษภัยจากสารฟอร์มาลีนที่เข้าไปทำลายระบบทางเดินอาหาร ตับไต หัวใจ และสมองแล้ว ยังพบว่ามีพยาธิใบไม้ตับที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งบริเวณท่อน้ำดีในตับอีกด้วย

  1.    อาหารแปรรูป เช่น แหนม ไส้กรอก แฮม กุนเชียง

อาหารประเภทนี้ซึ่งมักจะใส่ดินประสิวหรือเกลือไนไตรท์  (Nitrite)ผสมอาหาร ยืนยันแล้วมีสารก่อมะเร็งชนิดไนโตรซามีน โดยจะมีผลก่อให้เกิดโรคมะเร็งบริเวณกระเพาะอาหาร และบริเวณตับ

  1.    อาหารทั่วไป

อาหารทั่วไป เช่น เนื้อสัตว์บด ลูกชิ้น ทับทิมกรอบ ลอดช่อง เผือกกวนและผลไม้ดอง มีสารก่อมะเร็งชนิดร้ายแรงอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีผู้ผลิตอาหารนิยมนำมาใช้ คือ สารบอแรกซ์ โดยสารชนิดนี้มีคุณสมบัติให้สารประกอบเชิงซ้อน กับสารอินทรีย์ในอาหาร ทำให้อาหารมีลักษณะยืดหยุ่น กรอบ อร่อย และมีรสชาติยั่วยวนใจ

        จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าอาหารที่เราบริโภคกันเป็นประจำทุกวันนี้ล้วนมีส่วนประกอบของสารก่อมะเร็งด้วยกันทั้งสิ้นและเป็นการหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะเราไม่สามารถรู้ว่า สารก่อมะเร็งที่สะสมอยู่ในร่างกายของเราจะทำให้เกิดมะเร็งขึ้นมาเมื่อไหร่ ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือ การบริโภคอาหารที่หลากหลาย ทานผักผลไม้เยอะๆ เนื่องจากในผักผลไม้มีสารต้านมะเร็งมากมาย หรือวิธีที่ง่าย คือ การดื่มยาน้ำสมุนไพรฮั้วลักเซียมที่มีส่วนประกอบของสมุนไพร  99 ชนิดช่วยบำรุงฟื้นฟู ปรับสมดุลร่างกายให้ห่างไกลโรค

Visitors: 181,720