การรักษาโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งกับการรักษา
โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
โดยมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติที่เกิดเป็นก้อนเนื้อที่มีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง
หรือกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ผ่านทางระบบเลือด
หรือระบบทางเดินน้ำเหลือง โรคมะเร็งมีหลากหลายชนิดขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็นจุดกำเนิดของโรค และชนิดของเซลล์มะเร็ง
มะเร็งแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
1.คาซิโนมา
คือ มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากผิวหนัง หรือ เนื้อเยื่อบุอวัยวะ
2.ชาโคมา
คือ มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากกระดูก
กระดูกอ่อน ไขมัน กล้ามเนื้อ
หรือเส้นเลือด
3.ลิวคีเมีย
คือ มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูก ทำให้มีความผิดปกติของเม็ดเลือด
4.ลิมโฟมาและไมอีโลมา คือ
มะเร็งที่มีจุดกำเนิดมาจากเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน
5.ระบบสมองและไขสันหลัง
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
แพทย์ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามะเร็งในแต่ละบุคคลเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงสาเหตุเดียว ข้อมูลในปัจจุบันพบว่า มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โอกาสในการเกิดมะเร็งเพิ่มมากขึ้น
1.
อายุ ที่เพิ่มขึ้นมีโอกาสเกิดมะเร็งได้มากขึ้น
2.
บุหรี่
มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด ,มะเร็งกล่องเสียง
, มะเร็งช่องปากและลำคอ , มะเร็งหลอดอาหาร , มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ , มะเร็งไต ,
มะเร็งกระเพาอาหาร, มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งปากมดลูก
3.
แสงแดด หรือ แสงยูวี สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งผิวหนัง
4.
รังสีในธรรมชาติ หรือเอกซเรย์
รังสีนิวเคลียร์ แก๊วเรดอน
หากได้รับปริมาณสูงเกินกำหนด
สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลูคิเมีย
มะเร็งไทรอยด์ มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาอาหาร
5.
สารเคมี
6.
เชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรียบางชนิด
เช่น เอชพีวี ไวรัส , ไวรัสตับอักเสบบี
ซี, ไวตัสเอชไอวี เป็นต้น
7.
การได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม
8.
ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
มะเร็งบางชนิดสัมพันธ์กับความผิดปกติของสารพันธุกรรม ที่เรียกว่า
ยีนอย่างไรก็ดีมะเร็งที่ถ่ายทอดในครอบครัวพบได้เป็นสัดส่วนน้อย
9.
แอลกอฮอล์
สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งช่องปากและลำคอ
มะเร็งทางอาหาร มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งตับ และมะเร็งเต้านม
10.
วิถีการดำเนินชีวิตบางอย่าง เช่น
การกินอาหารไขมันสูง สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งโพรงมดลูก
และมะเร็งต่อมลูกหมาก ความอ้วนหรือออกกำลังกายน้อย สัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็ง หลอดอาหาร มะเร็งไต และมะเร็งโพรงมดลูก
อาการของโรคมะเร็ง
· ตรวจพบการหนาตัวหรือก้อนที่ผิวหนังเต้านม
หรือส่วนใด ๆ ของร่างกาย
· ไฝเกิดขึ้นใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงของไฝเดิม เช่น ขยายขนาดโตขึ้น
คันแตกเป็นแผล เลือดออก
· เจ็บปวดบริเวณต่าง
ๆ ของร่างกายเรื้อรง
· เสียงแหบหรือไอเรื้อรัง
· มีความเปลี่ยนแปลงในการขับถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะปนเลือด ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง อุจจาระลำบาก
อุจจาระปนเลือด
ปวดหน่วงทวารหนักเวลาขับถ่าย
· มีความเปลี่ยนแปลงในการรับประทานอาหาร
เช่น กลืนติด กลืนลำบาก กลืนเจ็บ อิ่มเร็ว คลื่นไส้อาเจียน
· การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
เช่น น้ำหนักลงมากโดยไม่มีสาเหตุอันควร
· มีสารคัดหลั่งออกผิดปกติหรือเลือดออก
เช่น ตกขาวผิดปกติ ตกขาวปนเลือด เลือกออกทางช่องคลอดผิดปกติภายหลังจากมีเพศสัมพันธ์
อาการดังกล่าว อาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากมะเร็งเสมอไป หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยให้แน่ชัด
โดยทั่วไปมะเร็งในระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการเจ็บปวดอย่างเด่นชัด หากมีอาการข้างต้นไม่ควรนิ่งเฉย ควรพบแพทย์โดยเร็ว
การรักษาโรคมะเร็ง
เนื่องจากผู้ป่วยโรคมะเร็งมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทำให้วงการแพทย์ได้คิดค้นวิจัยการรักษาใหม่
ๆ ออกมาเป็นตัวเลือกรักษาโรคมะเร็งในแต่ละอาการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาโรคมะเร็งดังต่อไปนี้
การผ่าตัด เป็นเทคนิคการรักษาโรคมะเร็งดั้งเดิมที่ในปัจจุบันยังคงเป็นมาตรฐานการรักษาโรคมะเร็งหลายชนิด
การฉายรังสี ถูกพัฒนามามากกว่า 100
ปีก่อน รักษาโรคมะเร็งโดยการใช้คลื่นเอกซเรย์ขนาดสูง หรือคลื่นกัมมันตรังสี เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตและฆ่าเซลล์มะเร็งโดยรังสีความเข้มสูงสามารถทำลายเซลล์ได้ถึงระบบ
DND
การใช้เคมีบำบัด
หรือ คีโม
สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเรียกสารเหล่านั้นว่า Cytotoxic และการใช้สารดังกล่าว เพื่อรักษาโรคมะเร็ง เรียกว่า
เคมีบำบัด
การรักษาโดยใช้ฮอร์โมน เป็นการรักษาโรคมะเร็งโดยการให้ฮอร์โมนหรือสารบางชนิด เพื่อไปยับยั้งฮอร์โมนที่ไม่พึงประสงค์
นอกจากนั้นแล้วยังอาจเสริมด้วยวิธีธรรมชาติด้วยการรับประทานสมุนไพรแต่ต้องเลือกให้ดี
เช่นมีส่วนประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานหรือปรับสมดุลร่างกายอีกด้วย