ฮั้วลักเซียมพิชิตโรค ตอน รักษาสมดุลร่างกาย หายจากโรค
ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นคน เราก็มักจะหาสมุนไพรมารักษาให้กับผู้ป่วย โดยสังเกตได้จากสมัย ปู่ย่า ตายาย ในอดีต ผู้คนในยุคเก่ามักจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถึงแม้จะมีอาการเจ็บป่วย ก็เป็นอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ รักษาด้วยยาสมุนไพรเพียงไม่นานก็หาย ขณะที่ในปัจจุบัน แม้วิทยาการทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปไกลมากกว่าในอดีตมาก คนเราน่าจะมีร่างกายที่แข็งแรงแต่กลับกัน คนในโลกปัจจุบัน กลับมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง คน 1 คน มีโรคมากกว่า 1 โรค และบางครั้งป่วยเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุ เมื่อไปพบแพทย์ก็จะได้รับยาแผนปัจจุบันมารับประทาน ส่วนใหญ่ได้รับยามากกว่า 1 ชนิด ยิ่งคนที่มีโรคเยอะก็จะได้รับยาหลายชนิด การรับประทานยาแผนปัจจุบัน หลายชนิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะเป็นการสะสมพิษต่อตับและไตในระยะยาวได้ เมื่อบริโภคยาแผนปัจจุบันไป นานๆ ทำให้ก่อให้เกิดโรคที่อาจหนักกว่าโรคที่เราต้องการรักษาเสียอีก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ เป็นการรักษาอาการของโรคไม่ใช่ที่ต้นเหตุของการเกิดโรค ทำให้ความสมดุลจากของร่างกายเสียไป
การเกิดโรคหลายอย่างเกิดจากร่างกายขาดความสมดุล เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่หลากหลาย ทำให้ร่างกายได้รับสารบางอย่างมากจนเกินไปและขาดสารอาหารบางอย่างที่จำเป็นแก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดโรคได้
เคยสังเกตบ้างไหม ทำไมในโลกนี้มักมีสิ่งที่ตรงข้ามกันอยู่เสมอ เช่น กลางวัน-กลางคืน ร้อนหนาว มืดสว่าง ผู้หญิงผู้ชาย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความสมดุลที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ ที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปว่า “หยิน-หยาง” ร่ายกายคนเราก็เช่นกัน ก็มีความสมดุลที่เกิดขึ้นทำให้ร่างกายสามารถดำรงคงอยู่ได้และระบบต่างๆของร่างกายทำงานร่วมกันอย่างเป็นปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ขาดความสมดุลเหล่านี้แล้วก็จะทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกาย นำมาสู่การเกิดโรคต่างๆ ขึ้นได้ นอกเหนือจากภูมิต้านทานของร่างกายต่ำที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
การรักษาโรคแผนปัจจุบัน การวินิจฉัยโรคของแพทย์แผนปัจจุบันจะให้ความสำคัญกับอวัยวะและระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับอาการหลักที่ผู้ป่วยมาหาแพทย์ ในขณะที่แพทย์แผนจีนจะไม่ได้มองไปที่ระบบการทำงานของอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเป็นพิเศษ แต่จะวินิจฉัยไปทั้งร่างกายโดยมองถึงความสมดุลของร่างกายในภาพรวมว่ามี ส่วนไหนในร่างกายที่ความสมดุลน้อยลงไปและมีส่วนไหนในร่างกายที่มากเกินไป ภาพที่จะเห็นได้ก่อนในองค์รวมของร่างกายคือ อาการป่วยที่มีลักษณะไปในแนวทางใดทางหนึ่ง ในแนวหยิน หรือ หยาง
สมดุลที่เรียกว่า “หยิน-หยาง” นี้ในทางแพทย์แผนจีน แบ่งอาการได้เป็นดังนี้
อาการหยาง : ไข้สูง เหงื่อออก กระสับกระส่าย กระหายน้ำ ท้องผูก หน้าแดง ขี้ร้อน ภาษาจีนจะเรียกว่า “ร้อนแกร่ง” คนกลุ่มนี้จะมีอาการของหยางมาก
อาการหยิน : หนาวสั่น ปวดท้อง นอนขด ชีพจรคลำไม่ค่อยเจอ ตัวเย็น มือเท้าเย็น กลัวหนาว คนกลุ่มนี้จะมีอาการของหยินมาก
การรักษาทำได้โดยปรับสมดุลร่างกายโดยถ้ามีหยินมากก็ต้องเพิ่มหยาง เช่น การทานอาหารหรือสมุนไพรที่เป็นหยางหรือมีฤทธิ์เผ็ดร้อน ส่วนถ้าร่างกายเป็นหยางก็ต้องปรับโดยการทานอาหารหยินหรือมีฤทธิ์เย็น
อาหารที่เป็นหยิน เช่น เก๊กฮวย กล้วย สาลี่ แตงโม สับปะรด องุ่น มะพร้าว ถั่วเหลือง เต้าหู้ ปลาเนื้อขาว ปู เป็ด หอยนางรม ยังไม่เพียงเท่านั้นการปรุงอาหารด้วยการต้ม นึ่งและตุ๋นก็จัดว่าเป็นอาหารหยิน
อาหารที่เป็นหยาง อาหารที่รสชาติเผ็ด-ร้อน หวานและอาหารจำพวกแป้ง เช่น ขิง พริกไทย กระเทียม ผักชี หัวหอม งาดำ และเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว หรือไก่ รวมทั้งการปรุงอาหารด้วยการทอด ย่าง และรมควันก็เป็นอาหารเสริมธาตุ ‘หยาง’
รู้อย่างนี้แล้วเราลองมาปรับสมดุลร่างกายให้ปกติเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย ห่างไกลโรคกันเถอะ
หากคนที่ไม่มีเวลาเลือกรับประทานอาหารหยิน-หยาง เมื่อปรับความสมดุลร่างกายแล้วละก้อ วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการดื่มยาน้ำสมุนไพรฮั้วลักเซียม สูตรใหม่ สมุนไพร 99 ชนิด เพื่อปรับสมดุลร่างกายและเสริมสร้างภูมิต้านทาน ห่างไกลโรค
แล้วพบกับบทความดีๆ ได้ใหม่ ในตอนหน้านะคะ ที่นี่ www.loveyou-thailand.com เท่านั้น